จะรักษาโรค NCDs ด้วยตัวเอง

กลุ่มโรค NCDs (Non-Communicable diseases) หรือ ชื่อภาษาไทยเรียกว่า กลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง นั้นเป็นชื่อเรียก กลุ่มโรคที่ไม่ได้มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อ ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรค ไม่สามารถติดต่อได้ผ่านการสัมผัส คลุกคลี หรือ ติดต่อ ผ่านตัวนำโรค (พาหะ) หรือสารคัดหลั่งต่างๆ หากแต่เกิดจากปัจจัยต่างๆ ภายในร่างกาย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลจากไลฟ์สไตล์วิธีการใช้ชีวิต ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงอย่าง เหล้า บุหรี่ ขาดการออกกำลังกาย อาหารหวาน มัน เค็มจัด และมีความเครียด การพักผ่อน การนอน
ซึ่งโรคในกลุ่ม โรค NCDs ที่มีอัตราผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตสูงสุด 6 โรค ได้แก่

1.   โรคเบาหวาน (Diabetes Mellitus)
2.   โรคหลอดเลือดสมองและหัวใจ (Cardiovascular & Cerebrovascular Diseases)
3.   โรคถุงลมโป่งพอง (Emphysema)
4.   โรคมะเร็ง (Cancer)
5.   โรคความดันโลหิตสูง (Hypertension)
6.   โรคอ้วนลงพุง (Obesity)

โรค NCDs ที่ผมเป็นอยู่คือ

1.   ความดันโลหิตสูง
2.   เรื่มเป็นเบาหวาน
3.   โรคอ้วนพุง

ซึ่งถ้าไม่รีบปฏิวัติในตอนนี้ โรค NCDs ที่เหลือจะตามมา.......ต้องเริ่มตั้งแต่วันนี้แล้วครับ

กิจวัตรที่ทำตลอดระยะเวลา 1 เดือน
1.   น้ำมันมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ ก่อนอาหารเช้าประมาณ 15 นาที
2.   อาหารเช้า
-   สลัดผักสด ไข่ต้ม, ไก่ต้มฉีก หรือไส้กรอก ราดน้ำสลัด (ให้เคี้ยวผัดสดโดยละเอียดสดไปในท้องก่อน แล้วตามด้วยอย่างอื่น)
-   ข้าวต้มหมูเห็ดหอม ใส่ กระเทียม เก๋ากี้ ใบตำลึง
-   ข้าว+ผัดผักหมูสับ
3.   อาหารเสริมหลังอาหารเช้า ได้แก่
-   น้ำมันปลา 1 แคปซูล
-   วิตามินซี BIO C (100mg) 1 เม็ด ทานสลับกับ วิตามินรวม (Multivitamins)
-   กระเทียมสกัด 1 เม็ด
-   อบเชย 1 แคปซูล
-   ขมิ้นชัน 2 แคปซุล
-   ใบมะรุม 2 แคปซูล
4.   อาหารเสริมก่อนอาหารกลางวัน
-   มะระขี้นกสกัดเม็ด 2 เม็ด
-   ตังถั่งเฉ้าบด+แอล-อาร์จีนิน+โสมเกาหลี 1 แคปซูล
5.   อาหารกลางวัน – ทานได้ทุกอย่างแต่กินข้าวแค่ ½ จาน เหลียกเลี่ยงอาหารจำพวกแป้ง
6.   อาหารเสริมหลังอาหารกลางวัน
-   อบเชย 1 แคปซูล
-   ขมิ้นชัน 2 แคปซุล
7.   ของทานเล่นหลังอาหารกลางวัน (ถ้าต้องการ) – ผลไม้ที่มีความหวานน้อย เช่น ชมพู่ สัปประรด สตอเบอร์รี่
8.   บ่าย – ชาเขียวร้อน เมล็ดฟักทองอบแห้ง อัลมอลน์ หรือ ไข่ต้ม 2 ฟอง (ไม่กินไข่แดง)
9.   อาหารเย็น – ทานได้ทุกอย่าง แต่ให้เหลียกเลี่ยงการกินข้าว หรือกินให้น้อยลง ให้ทานอาหารเย็นก่อน 19.00 น.
-   ผัดที่ควรกินเพื่อช่วยลดน้ำตาล ได้แก่ ใบกระเพรา ตำลึง มะระขี้นก เป็นต้น
10.   ออกกำลังกาย – เดินสลับวิ่งอย่างน้อย 30 นาที ออกกำลังกายด้วยเครื่องออกกำลังกาย 15 นาที ปั่นจักรยาน 5-8 กม ประมาณ 15-30 นาที น้ำหนักจะหายไปอย่างน้อย 0.7 กก
11.   อาหารค่ำ – ถ้าอยู่ดึกและหิว ให้ทานผลไม้ได้แต่ไม่มาก เช่น เสารส เป็นต้น
12.   นอน – ไม่ต่ำกว่า 6-7 ชั่วโมง
สิ่งที่จะต้องเหลียกเลี่ยง
1.   น้ำตาล ที่มาจากขนมหวานทั้งหลาย ทานผลไม้ได้ แต่ต้องไม่กินเป็นปริมาณมาก
2.   ทานก๋วยเตี๋ยวไม่ปรุงเพิ่ม แต่ถ้าต้องปรุงเพื่อเพิ่มรสชาติ ให้ลดปริมาณน้ำปลาและน้ำตาล เมื่อลองทานแบบนี้ไปสัก 2 อาทิตย์ ร่างกายจะปรับตัวให้ทานอาหารลดจัดน้อยลง
3.   หลีกเลี่ยงอาหารจำพวกแป้ง เช่น ข้าว ก๋วยเตี๋ยว เป็นต้น
4.   งดหรือเหลียกเลี่ยงของทอดเพราะมีไขมันทรานส์ เช่น เกี๊ยวทอด ทอดมัน ปาท่องโก๋ เป็นต้น
5.   ทานผักสดเพิ่ม โดยเฉพาะผักใบเขียว โดยเฉพะก่อนอาหารเช้า ผักสดแนะนำของดอยคำโครงการหลวงเพราะปลอดสารพิษเป็นเกษตรอินทรีย์
6.   ไข่ทานได้วันละ 1 ฟอง (กินทั้งไข่ขาวและไข่แดง) ถ้าหิวกินไข่ต้ม (เฉพาะไข่ข่าว) กินได้ไม่จำกัด
7.   ควรชั่งน้ำหนักทุกเช้าหลังตื่นนอนแล้วจดบันทึกทุกครั้ง
8.   ควรทำการบันทึกอาหารที่กินไปในแต่ละมื้อ
9.   ตรวจน้ำตาลในเลือด (FBG) และ ไขมันคอลเลสตอรอล (LIPID) เป็นประจำ

	ผู้เขียน	หัวข้อ: จะรักษาโรค NCDs ด้วยตัวเอง (อ่าน 6293 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้